ไอรอนแมน (2008)ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่เปลี่ยนโฉมหน้าจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
ไอรอนแมน เมื่อพูดถึงไอรอนแมน ใครๆ ก็นึกถึงตัวละครที่มีชุดเกราะสีแดง-ทองโดดเด่น แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าภาพยนตร์ไอรอนแมน ในปี 2008 นั้นได้เปลี่ยนโฉมหน้า ของวงการภาพยนตร์มาร์เวลอย่างแท้จริง ทำไมเราถึงว่าเช่นนั้น? ไอรอนแมนเป็นภาพยนตร์แรกในเซตของ จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) มันไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่เพียงตัวเดียว แต่ยังเป็นต้นฉบับในการสร้างเนื้อเรื่องที่เชื่อมโยง กันเป็นจักรวาลใหญ่ของมาร์เวล ผู้ชมได้เรียนรู้ถึงโทนี่ สตาร์คธุรกิจเจ้าของ Stark Industries ที่หลังจากถูกกักกันในถ้ำได้หันมาสร้างชุดเกราะที่สามารถป้องกันและทำลายศัตรู ความเป็นมาของไอรอนแมนเริ่มต้นขึ้นจากที่นี่ และต่อมาชุดเกราะนี้ก็กลายเป็นสัญลักษณ์แท้จริงของโทนี่สตาร์ค
แต่ที่สำคัญคือ ไอรอนแมนยังเปิดประตู ให้กับการเรื่องราวอื่น ๆ ภายในจักรวาลนี้ ไม่ว่าจะเป็น Thor, Captain America หรือ Avengers ทั้งหมดนี้ก็เริ่มจาก ขั้นตอนแรกของไอรอนแมน ไม่ใช่แค่เรื่องราวของฮีโร่คนหนึ่ง แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจและรากฐานในการสร้างและขยายจักรวาลของมาร์เวลที่เรารู้จักวันนี้ ภาพยนตร์นี้เปลี่ยนวิธีการนำเสนอซูเปอร์ฮีโร่และเรื่องราวของพวกเขา จนทำให้วงการภาพยนตร์มาร์เวลมีความน่าติดตามและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวันนี้ เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไอรอนแมน เป็นหนึ่งในการเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของวงการภาพยนตร์มาร์เวล และก็ยังคงเป็นหนึ่งในชิ้นงานที่สร้างสรรค์และมีอิทธิพลที่สุดในแวววงการนี้
เนิ้อเรื่องย่อของไอรอนแมนโดยไม่สปอย
ไอรอนแมนภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่สร้างความฮิต ให้แก่วงการภาพยนตร์มาร์เวล พาเรามาทำความรู้จักกับโทนี่ สตาร์คธุรกิจรุ่นสามของบริษัท Stark Industries ที่มีชีวิตสบายดีในระดับหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ปกปิดไว้เบื้องหลังคือความเป็นผู้ผลิตอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลก โทนี่มีชีวิตที่ไม่ค่อยจะรับผิดชอบ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาถูกลักพาตัวและถูกกักกันในถ้ำ โดยกลุ่มก่อการร้าย เขาถูกบังคับให้สร้างอาวุธที่ทรงพลังให้กับกลุ่มนี้ แต่โทนี่เลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทางของเขาเอง โดยการสร้างชุดเกราะแทน ชุดเกราะที่โทนี่สร้างนั้นไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือเพื่อหนีตาย แต่ยังเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเขาปกป้องโลก หลังจากที่โทนี่หลุดพ้นจากถ้ำ การที่เขาได้สัมผัสกับความเจ็บปวดและความทุกข์ของผู้คน ทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางของชีวิต และภาพยนตร์นี้ก็จะพาเราตามติดเรื่องราวของโทนี่ สตาร์คในการก้าวขึ้นมาเป็นไอรอนแมน เรื่องราวนี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของโทนี่ สตาร์คและยังเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ของไอรอนแมน(2008)
เมื่อพูดถึงภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ ที่สร้างประทับใจ และความสำเร็จในยุคที่ผ่านมาไอรอนแมนนั้นยืนหนึ่งอยู่ในหมู่นั้นแน่นอน ด้วยบทบาทของ Tony Stark หรือไอรอนแมนที่ถูกนำมาแสดงโดย Robert Downey Jr ภาพยนตร์นี้ได้สร้างความประทับใจที่ยาวนานแก่ผู้ชมทั่วโลก
ภาพยนตร์ไอรอนแมนได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางทั้งในด้านการตลาดและการวิจารณ์ ภาพยนตร์ได้ทำรายได้กว่า 585 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก และยืนยันว่าการคืนชีพของฮีโร่จากหนังสือการ์ตูนเก่า ๆ สามารถสร้างความสำเร็จได้ในยุคสมัยใหม่ ไอรอนแมนไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ที่เพลิดเพลินและบันเทิง แต่ยังเป็นการนำเสนอตัวละครที่มีความซับซ้อนและมีความเป็นมนุษย์
ส่วนของการวิจารณ์ ผู้วิจารณ์ส่วนใหญ่ชื่นชมในการแสดงของ Robert Downey Jr และยอมรับว่าเขาเป็นตัวละครที่เหมาะสมสำหรับ Tony Stark อย่างยิ่ง ด้วยการเรียบเรียงเนื้อหาและการเล่าเรื่องที่ไหลลื่น ภาพยนตร์นี้สามารถดึงดูดใจผู้ชมและทำให้รักตัวละครและโลกของ Marvel Cinematic Universe (MCU)
นอกจากนี้ ความสำเร็จของไอรอนแมนยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ MCU เริ่มต้นขึ้นมา และสร้างพื้นที่ให้กับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อื่น ๆ ในซีรี่ส์นี้ ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในด้านการตลาด แต่ยังสร้างความหมายและส่งต่อค่านิยมผ่านเรื่องราวและตัวละคร
การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ในบท โทนี สตาร์ก
ในวงการภาพยนตร์ บางครั้งเราจะเห็นการพลิกเกมจากนักแสดงที่เราคุ้นเคย โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ หรือที่เรารู้จักกันในนาม RDJ คือตัวอย่างของการพลิกบทบาทที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ด้วยการแสดงบทโทนี สตาร์กหรือ ไอรอนแมนในช่วงเริ่มต้นของความสำเร็จในวงการRDJ ประสบกับปัญหาด้านสุขภาพจิตและปัญหาเสพติด ทำให้เขาตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง เขากลับมาอย่างแข็งแกร่งและได้รับโอกาสแสดงในบท โทนี สตาร์กซึ่งเป็นการกลับมา แบบยิ่งใหญ่สำหรับRDJ
การแสดงของRDJ ในบท โทนี สตาร์กนั้นไม่เพียงแค่เป็นการสะท้อนถึง การกลับมาของเขา แต่ยังได้สร้างเสียงฮือฮาในวงการภาพยนตร์ ซึ่งได้รับการประกาศเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ให้ความจริงใจที่สุดและเป็นที่รักของแฟน ๆ มากมายทั่วโลก โทนี สตาร์ก ที่RDJ สร้างขึ้นนั้นไม่ใช่เพียงแค่ฮีโร่ที่มีเทคโนโลยีและเสื้อเกราะที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน มีความคิดและความรู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงตัวตนจริงของRDJ และเป็นสิ่งที่ทำให้การแสดงของเขาเด่นชัดและเป็นที่รับรู้ สรุปแล้ว การที่RDJ ได้รับบท โทนี สตาร์ก นั้นไม่ใช่เพียงแค่โอกาสสำหรับเขาที่จะกลับมายิ่งใหญ่ในวงการภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเอง และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนที่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปได้
การค้นหาตัวตน จาก Tony Stark สู่ Iron Man
ในการทำภาพยนตร์เรื่อง Iron Man เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลง และการค้นหาตัวตนของโทนี่ สตาร์คจากทายาทผู้ผลิตอาวุธขนาดใหญ่ สู่ฮีโร่ที่มีความรับผิดชอบต่อโลก ในตอนแรกโทนี่ สตาร์คคือบุคคลที่ยิ่งใหญ่ มั่นใจในตนเอง และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ แต่อันที่จริง ในภายใน เขาอาจจะมีความว่างเปล่า และไม่รู้สึกมั่นคงกับตัวเอง ความปลอดภัยในชีวิตของเขา เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาถูกลักพาตัวและถูกบังคับให้สร้างอาวุธ แต่ในสถานการณ์ที่เหมือน จะเป็นความตายสำหรับเขาโทนี่ สตาร์คได้ตัดสินใจ ไม่ทำตามที่ถูกบังคับ และเริ่มต้นการสร้างชุดเกราะไอรอนแมน
การสร้างชุดเกราะนั้น ไม่ได้แค่เป็นการป้องกันตนเอง จากอันตราย แต่ยังเป็นการปฏิรูปและการค้นหา ความหมายใหม่ของชีวิต จากนั้น โทนี่กลับมายังโลกภายนอก ไม่ใช่เป็นนักธุรกิจอาวุธเดิม ๆ แต่กลายเป็นฮีโร่ ที่ต้องการทำให้โลกเป็นที่ดีขึ้น การตัดสินใจของโทนี่ สตาร์ค ไม่ได้มาเพียงแค่จากความต้องการที่จะรอดชีวิต แต่ยังมาจากการเข้าใจ ถึงผลกระทบจากการปกครอง อาวุธของเขา และความต้องการที่จะตอบแทนสังคม ไอรอนแมนเป็นเรื่องราว การเปลี่ยนแปลงของฮีโร่ ที่แสดงให้เห็นถึง การค้นหาตัวตนที่แท้จริง ของโทนี่ สตาร์คและวิธีที่เขาเลือก ใช้ชีวิตใหม่ ในฐานะไอรอนแมน เพื่อปกป้อง และเสียสละเพื่อผู้อื่น
เทคนิคการถ่ายทำที่โดดเด่น การสร้างสรรค์ไอรอนแมน(2008) ให้สมจริง
การถ่ายทำภาพยนตร์ไอรอนแมน ไม่ได้เพียงแต่ขึ้น อยู่กับการแสดงของนักแสดง หรือเนื้อเรื่องที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังมีการนำเสนอภาพเทคนิคการถ่ายทำ ที่ทำให้ผู้ชมประทับใจ และรู้สึกว่าภาพยนตร์มีความสมจริงสูง การใช้เทคโนโลยี CGI ทำให้ตัวละครของไอรอนแมนดูสมจริงและมีชีวิตชีวา เราสามารถเห็นการบิน การต่อสู้ และรายละเอียดของเกราะที่น่าประทับใจ ทั้งนี้เพราะการจับภาพการเคลื่อนไหวด้วย Motion Capture ทำให้การเคลื่อนไหวของไอรอนแมนดูราบรื่นและธรรมชาติ ส่งผลให้ภาพตัวละครดูเป็นจริงมากยิ่งขึ้น
การจัดแสงในภาพยนตร์นี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกราะของไอรอนแมนมีความเป็นมิติ และการเลือกใช้ภาพพื้นหลังและสภาพแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้นด้วย CGI ร่วมกับการถ่ายทำจริง ทำให้เรื่องราวดูเข้ากันได้เป็นเอกภาพ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของฉากเมื่อนำทุกอย่างมาผสมผสานกันไอรอนแมนได้สร้างสรรค์ขึ้น มาเป็นภาพยนตร์ที่น่าจดจำ โดยมีเทคนิคการถ่ายทำที่โดดเด่นและสร้างความประทับใจในใจของผู้ชม
การเชื่อมโยงภาพยนตร์และการต่อยอดเรื่องราวใน MCU
ไอรอนแมนซึ่งเป็นภาพยนตร์แรก ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลไม่เพียงแต่นำเสนอเรื่องราวของโทนี่สตาร์คที่กลายเป็นฮีโร่ที่สวมเกราะเหล็กแล้ว แต่ยังเป็นต้นแบบในการตั้งต้นและเชื่อมโยงเรื่องราวที่มาภายหลัง
ภายในเรื่องไอรอนแมน ความสัมพันธ์ของโทนี่สตาร์คกับ เปปเปอร์ พอตส์ เจมส์ โรดส์ และแม้กระทั่ง เจ้าหน้าที่โคลสัน ของ S.H.I.E.L.D. ถูกนำเสนอเพื่อให้เรามองเห็นภาพรวมและการเชื่อมโยงกับภาพยนตร์อื่นๆในMCU
สิ่งที่ทำให้ไอรอนแมน ยิ่งใหญ่ต่อการต่อยอดเรื่องราวในMCU คือฉากหลังเครดิตซึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับ Nick Fury ผู้บอกเปิดเรื่องของ โครงการทีมรวม หรือ The Avengers Initiative ซึ่งเป็นการสร้างความตื่นตาตื่นใจและคาดหวังว่าจะมีอะไรใหญ่ๆเกิดขึ้นไอรอนแมน มีบทบาทสำคัญในการตั้งต้นเรื่องราวให้กับMCU ทั้งการนำเสนอตัวละครและเชื่อมโยงฉากที่ซ่อนเร้นอยู่ภายหลังเครดิต ทำให้ผู้ชมเริ่มต้นการติดตามและตื่นตาตื่นใจในเรื่องราวฮีโร่ที่เกิดขึ้นต่อไปในMCU
บทสรุปของไอรอนแมน
ไอรอนแมน ภาพยนตร์ที่ปล่อยตัวเมื่อปี 2008 ได้เปิดตำนานใหม่ ในโลกของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ ด้วยเรื่องราวของโทนี สตาร์ก ธุรกิจผู้สร้างอาวุธ ที่กลายเป็นฮีโร่ไอรอนแมน เมื่อถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายจับตัว ความสำเร็จทางการตลาด และวิจารณ์ได้ทำให้มาร์เวลมีความมั่นใจในการขยายต้นไม้เรื่องราวในMCU ต่อไป ความแปรปรวนในชีวิตของโทนี และการแสดงของโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้รับการสร้างสรรค์อย่างลงตัว และการเชื่อมโยงที่ไว้วางในภาพยนตร์ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี นำพาไปสู่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลในยุคใหม่ https://www.moviecodec.com
อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/Iron_Man_(2008_film)