เงือกน้อยผจญภัย มีแนวทางของเรื่องและที่มาอย่างไร
เงือกน้อยผจญภัย ได้เริ่มต้นขึ้นในยุคที่ลึกลับและสุดมหัศจรรย์ของมหาสมุทร มีนางเงือกน้อยที่ชื่อว่า แอเรียลซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดพี่น้องของราชวงศ์ แอเรียลมีเสียงร้องที่สวยงามและความอยากรู้อยากเห็นต่อโลกของมนุษย์ ซึ่งคือโลกที่อยู่เหนือผิวน้ำ แต่แม้กระนั้น กฎของมหาสมุทรก็ห้ามเขาจากการพบปะกับโลกนี้ วันหนึ่ง ในการศึกษาวิถีชีวิตทางด้านบน แอเรียลได้พบกับเรือของเจ้าชาย อีริคและพบกับเสียงร้องที่สวยงามของเขาจนหลงรัก แต่ทว่า ความสุขของเธอถูกรบกวนโดยความโกลาหลเมื่อพายุกลายมาในขณะนั้น ทำให้เจ้าชายอีริคตกน้ำและจม เธอได้ช่วยชีวิตเขาและแอบนำเขาขึ้นฝั่ง แต่ไม่เคยเผยแพร่ตัวตนของเธอเองแก่เขา
ด้วยความหมกมุ่นในหัวใจของเธอ แอเรียลได้ตัดสินใจขอความช่วยเสริมจาก เออร์ซูลา แม่มดทะเลที่ร้ายกาจ เพื่อแลกเสียงร้องสวยงามของเธอเป็นขาและโอกาสที่จะอยู่กับเจ้าชายอีริคแต่เธอจะต้องได้รับจูบแท้จากเจ้าชายภายในสามวัน มิฉะนั้นเธอจะกลายเป็นทาสในอาณาจักรของเออร์ซูลาตลอดกาล เธอเริ่มชีวิตใหม่ในโลกมนุษย์ แต่มีความยากลำบากในการสื่อสารเนื่องจากไม่มีเสียงร้อง แต่ก็ได้รับการช่วยเสริมจากเพื่อนๆ ของเธอ ได้แก่ ฟลาวน์เดอร์ ปลาคล้อยและ เซบาสเตียน ปูตัวจิ๋ว ในขณะที่เธอกำลังพยายามจับใจเจ้าชายอีริคเออร์ซูลาจึงอยู่ในการคอยเพื่อปั่นแผนที่จะยึดมาเป็นของเธอ
ก่อนที่วันสุดท้ายจะสิ้นสุด เออร์ซูลาได้ใช้เสียงร้องของแอเรียลเพื่อหลอกลวงเจ้าชายอีริคทำให้เขาหลงใหลในเธอแทน แต่ด้วยความสามารถและความรัก แอเรียลและเพื่อนๆ ของเธอก็ต่อสู้กับแม่มดทะเลและชนะเธอ ในที่สุด เจ้าชายอีริครู้จักความจริงและเขาก็หันมารักแอเรียลเช่นกัน ด้วยพระคุณของพ่อของแอเรียลกษัตริย์ไทร์ตัน เธอก็ได้รับขาอย่างถาวรและได้สร้างครอบครัวกับเจ้าชายอีริคและทั้งสองก็มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตลอดกาล
ตัวละครสำคัญของเรื่องเงือกน้อยผจญภัย
ตัวละครในเรื่องเงือกน้อยผจญภัยจากปี 1989 เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ชมต่างหลงรักในความฝันและแฟนตาซีของภาพยนตร์นี้ ระหว่างบางตัวละครที่ร่ำเรียนด้วยความรัก บางตัวละครกลับยังเต็มไปด้วยความลับและการขัดแย้ง เราจะมาทำความรู้จักกับบางตัวละครที่สำคัญของเรื่องนี้กัน เริ่มต้นด้วยแอเรียล ซึ่งเป็นเจ้าหญิงเงือกสุดสวยงามที่มีความฝันอยากให้ชีวิตเป็นเหมือนมนุษย์ และรู้สึกที่จะได้เห็นโลกบนผิวดิน แอเรียลเป็นตัวละครที่มีความขี้รุ้งริ้ว และทุกครั้งที่เธอได้ยินเสียงหรือเพลงของมนุษย์ เธอก็จะต้องการที่จะรู้จักและได้เจอกับเขา
ต่อมาคือ อีริค คือเจ้าชายที่แอเรียลต่างหลงรัก การที่เขาเห็นแอเรียลเป็นครั้งแรกทำให้เขารู้สึกพิศวาส แต่เขาไม่รู้ตัวเธอจริงๆ เพราะเธอไม่สามารถพูดได้ อีริคเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความตรงไปตรงมา และยังมีความสามารถในการเล่นเพลงด้วย ตัวละครที่ยังหลบเลือนไม่ได้คือ เออร์ซูลา คือแม่มดทะเลที่มีความโลภและความอิจฉา เออร์ซูลาต้องการควบคุมมหาสมุทรและได้ใช้แอเรียลเป็นเครื่องมือในการทำให้แผนของเธอสำเร็จ ด้วยความสามารถทายาทะเลและเวทมนตร์ ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่น่ากลัวที่สุดในเรื่อง
นอกจากนี้ยังมี ฟลาวเดอร์ และ เซบาสเตียน ฟลาวเดอร์เป็นปลาที่เป็นเพื่อนสนิทของแอเรียล ในขณะที่เซบาสเตียนเป็นปูที่ถูกมอบหมายให้ดูแลแอเรียล ทั้งสองตัวละครนี้เต็มไปด้วยความฮา และเป็นที่รักของเด็กๆ เมื่อนำเรื่องราวและตัวละครทั้งหมดมาผสมผสานกัน เงือกน้อยผจญภัยกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ไม่เคยลืม ด้วยความรัก ความฝัน และการผจญภัย ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความหมายของการเป็นตัวเอง และความสำคัญของการพบรักแท้ การรู้จักกับตัวละครเหล่านี้ทำให้เรื่อง เงือกน้อยผจญภัยและกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทุกคนควรได้ดูอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
ข้อแตกต่างของเรื่องเงือกน้อยผจญภัย ระหว่างนิทานของ Hans Christian Andersen
เรื่องราวของเงือกน้อยผจญภัย The Little Mermaid ที่เราคุ้นเคยกันส่วนใหญ่มาจากเวอร์ชั่นของDisney ที่ออกฉายในปี 1989 แต่ความจริงแล้ว นิทานเรื่องนี้มีรากฐานมาจากผลงานของ Hans Christian Andersen นักเขียนชาวเดนมาร์ก ทั้งสองเวอร์ชั่นนี้มีรายละเอียดที่แตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในแนวคิด แนวโน้ม และการลงมาของเหตุการณ์ ในเวอร์ชั่นของAndersen นางเงือกน้อยได้รับการขนานนามเป็นสัญลักษณ์ของความรักและการสูญสิ้น ความเสียสละและความเจ็บปวด ในขณะที่เธอต้องการแลกเสียงสวยงามของเธอเป็นขาเพื่อได้รักจากเจ้าชาย
แต่การเดินของเธอเป็นเหมือนกับการเดินบนมีด และในที่สุด เจ้าชายเลือกสาวคนอื่น ซึ่งทำให้นางเงือกน้อยต้องเผชิญหน้ากับการตาย แต่เธอก็ได้กลายเป็นฝนเมฆแทนที่จะกลายเป็นฟองน้ำ ขณะเดียวกัน เวอร์ชั่นของDisney มีการปรับเปลี่ยนให้มีความสุขใจมากขึ้น ที่แอเรียลมีเพื่อนที่สนิทสนมและช่วยเสริมในการผจญภัยของเธอ การเดินของเธอไม่มีความเจ็บปวดมากเท่าในเวอร์ชั่นของAndersen และในที่สุด เธอก็ได้รักจากเจ้าชายอีริค และความรักนี้ยังช่วยในการชนะแม่มดทะเลเออร์ซูลา ในขณะที่Andersen ทำให้เราเรียนรู้ความเสียสละและความสิ้นหวัง Disneyให้เราเห็นภาพของความหวังและความมุ่งมั่น
นอกจากนี้ ในนิทานของAndersen ไม่มีการกล่าวถึงเออร์ซูลา แม่มดทะเลแต่มีแม่มดนางเงือกที่ช่วยนางเงือกน้อยในการเปลี่ยนร่าง ส่วนภาพยนตร์ของDisney ให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเพิ่มฉากการต่อสู้ระหว่างแอเรียลและเออร์ซูลา ซึ่งเพิ่มความตื่นเต้นและกระแสต่อการต่อเนื่องของเรื่อง ที่สำคัญ การจบของเรื่องในเวอร์ชั่นของ AndersenและDisney มีความแตกต่างกันอย่างมาก ในนิทานของ Andersen นางเงือกน้อยได้กลายเป็นฝนเมฆและรับรู้ถึงความยุติธรรมของโลก ส่วนในภาพยนตร์ของ Disney แอเรียลได้รับความสุขและมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขกับเจ้าชายอีริค เมื่อเราเทียบเคียงระหว่างนิทานของAndersen และของDisney เราสามารถเห็นความแตกต่างของวิธีการเล่าเรื่องและแนวคิดที่เน้นไปที่การแสดงออกถึงความรัก ความหวัง และความเสียสละ ซึ่งทั้งสองเวอร์ชั่นนั้นล้วนมีคุณค่าและน่าสนใจในแง่มุมต่างๆ
ข้อคิดและคำสอนที่ได้รับ
ภาพยนตร์เงือกน้อยผจญภัย จากปี1989 ได้รับความนิยมและจังหวะหัวใจจากผู้ชมทั่วโลก ไม่เพียงแต่เพราะฉากสวยงาม หรือเพลงประกอบที่หวานหูเท่านั้น แต่ยังคือข้อคิดหลักและข้อสอนที่ภาพยนตร์นี้นำเสนอ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ ความฝัน และการตัดสินใจ เริ่มแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือความฝันและการแสวงหาความสุขของแอเรียล ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าหญิงในอาณาจักรใต้ทะเล แต่เธอยังคงมีความรู้สึกว่าโลกบนผิวดินนั้นมีสิ่งเสน่ห์ที่เธออยากได้สัมผัส ข้อสอนที่หนึ่งที่เราสามารถเอาไปปรับใช้ในชีวิตจริงคือ การยอมรับตัวตนและการมีความกล้าในการตามหาความฝัน
แม้จะมีอุปสรรคต่าง ๆ หนักหนาแต่ถ้ามีความตั้งใจและพยายาม เราก็สามารถทำให้ความฝันเป็นจริง ข้อสอนอีกข้อคือ การเข้าใจและยอมรับความแตกต่าง จากการที่แอเรียลพยายามปรับตัวให้เข้ากับโลกมนุษย์ เธอได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิตใต้ทะเลและบนผิวดิน และการที่เธอต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่สามารถพูดได้ เธอได้เรียนรู้การสื่อสารอย่างอื่นแทน การยอมรับความแตกต่างและความไม่สมบูรณ์ของตนเองนั้นเป็นข้อสอนที่ทุกคนควรจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน การตัดสินใจของแอเรียลในการแลกเสียงกับเออร์ซูลาเพื่อมีขาคือการแสดงถึงการตัดสินใจที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เสี่ยงและไม่แน่นอน
ข้อสอนที่สำคัญคือ การตัดสินใจมีความสำคัญและ การเรียนรู้จากความผิดพลาด เราต้องรับผิดชอบและแก้ไขเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ และสุดท้าย คือความรักที่แท้จริง ไม่ได้หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เข้ากับความต้องการของผู้อื่น แต่คือการยอมรับและรักตัวตนของกันและกัน แอเรียลและอีริคไม่ได้รักกันเพราะแค่หน้าตา แต่เพราะการเข้าใจกันในระดับที่ลึกซึ้ง เงือกน้อยผจญภัยเป็นมากกว่าเพียงแค่เรื่องราวของเจ้าหญิงเงือก มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแสวงหาความสุข การยอมรับตัวตน และความรักที่แท้จริง ซึ่งทุกคนสามารถเอาไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้
การนำเสนอภาพและเสียงเพลงอันไพเราะ
ภาพยนตร์เงือกน้อยผจญภัยของDisney ที่เข้าฉายในปี1989 เป็นหนึ่งในผลงานที่ถูกจดจำเป็นหนังสร้างสรรค์แห่งยุคของสตูดิโอDisney การนำเสนอภาพและเสียงในภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแต่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม แต่ยังถูกพิจารณาว่าเป็นการฟื้นฟูและปฏิวัติของภาพยนตร์แอนิเมชันของDisney ซึ่งอยู่ในช่วงที่พิการในยุค 1980s การวาดภาพของเงือกน้อยผจญภัย สะท้อนถึงความละเอียดอย่างยิ่งยวดและการใช้สีที่มีชีวิตชีวา ความสวยงามและความผ่อนคลายของโลกใต้ทะเล สัตว์ทะเลที่มีลักษณะแปลกปลอม และความวิจิตรของนางเงือกและตัวละครอื่น ๆ ได้รับการเน้นย้ำมากขึ้นด้วยเทคนิคแอนิเมชันที่ดีเยี่ยม
ฉากที่ทะเลแสนสดใสกับแสงแดดที่ส่องสว่างลงอย่างอุดมสมบูรณ์ ในขณะที่ฉากแห่งความมืดและความลึกลับของท้องทะเลในแคว้นของเออร์ซูลาสร้างความรู้สึกของความตื่นเต้นและความระทึก เมื่อพูดถึงเสียง ผลงานนี้เป็นต้นแบบของการผสมผสานระหว่างเพลง การแสดงเสียง และเสียงประกอบอื่น ๆ ที่มีความสมบูรณ์แบบ ดนตรีที่สร้างสรรค์โดย Alan Menken และเนื้อเพลงโดย Howard Ashman ได้สร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับภาพยนตร์ เพลงเช่น เพลงUnder the Sea เพลงPart of Your Worldและ เพลงKiss the Girl ได้รับการยอมรับและกลายเป็นเพลงคลาสสิกของDisney
การแสดงเสียงของตัวละครก็ทำให้เรื่องราวมีชีวิตและอารมณ์ดี ไม่ว่าจะเป็นความน่ารักของแอเรียล ความตลกของเฟลาวเดอร์ หรือความร้ายกาจของเออร์ซูลา การนำเสนอภาพและเสียงในเงือกน้อยผจญภัย ไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันถึงความเป็นเลิศในด้านเทคนิคและศิลปะของสตูดิโอDisney แต่ยังเป็นการสื่อสารความรู้สึก ความหมาย และความแรงกล้าผ่านเรื่องราวที่แสนน่ารักนี้ ผลงานนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในรายการที่สำคัญที่สุดของDisney และยังคงเป็นแหล่งแรงบันดาลใจสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันในทุกยุค
ฉากที่ถูกจดจำมากที่สุด
ในภาพยนตร์ได้เป็นมากกว่าการผจญภัยในโลกมหัศจรรย์ใต้ทะเลเท่านั้น เนื่องจากมีฉากบางฉากที่ได้ฝังเข้าในหัวใจผู้ชมมากมาย หนึ่งในฉากที่ถูกจดจำมากที่สุด และเป็นฉากที่หลายคนถือว่าเป็นหัวใจของภาพยนตร์นี้ คือ ฉากที่แอเรียลเต้นระบำบนหินปูนกลางทะเล ในขณะที่เธอร้องเพลง Part of Your World เราเห็นฉากของแอเรียลที่นั่งบนหินปูนกลางทะเล ด้วยเงาของแสงแดดที่ส่องผ่านน้ำทะเล แสงแดดเหล่านี้ทำให้ผิวของเธอเป็นสีแดงอ่อน และผมทองแดงของเธอวิบวับไปตามลม และน้ำทะเล ภาพนี้เป็นการแทนที่ของความฝัน ความปรารถนา และความหวังของแอเรียลที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกมนุษย์
ในขณะที่เธอร้องเพลง เราสามารถรู้สึกถึงความอิจฉา ความไม่พอใจ และความปรารถนาที่แรงกล้าของเธอที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่แตกต่าง โลกที่เธอคิดว่าจะเต็มไปด้วยความสุข และความอิสระ คำร้องของเพลงนี้บอกถึงความฝันของเธอ และการตั้งคำถามเกี่ยวกับว่าทำไมชีวิตของเธอถึงต้องถูกจำกัดไว้ในโลกใต้ทะเล ฉากนี้ไม่เพียงแต่เป็นการประกายความรู้สึกและความปรารถนาของแอเรียลเท่านั้น แต่ยังเป็นฉากที่ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงความรู้สึกของเธอได้อย่างแท้จริง การที่เราได้ยินเสียงของเธอ และดูภาพยนตร์ของฉากนี้ เราสามารถเข้าใจและรู้สึกถึงความปรารถนา ความฝันและความหวังของเธอได้
ทั้งนี้ฉากนี้กลายเป็นฉากที่หลายคนจดจำ และหลายคนยังร้องเพลงนี้ได้จำนวนมาก มันไม่เพียงแต่เป็นฉากที่สวยงามในเชิงศิลปะ แต่ยังเป็นฉากที่สะท้อนถึงความรู้สึก ความฝันและความปรารถนาของผู้คนทั่วไป ไม่ว่าใครจะมาจากวัฒนธรรมใด ฉากนี้ทำให้เรานึกถึงความฝันและความปรารถนาที่เรามีอยู่ในใจ และทำให้เราได้รู้สึกถึงความสำคัญของการมีความฝันและความปรารถนาในชีวิต
สรุปความหมายและความสำคัญของเรื่อง
เงือกน้อยผจญภัย จากปี1989คือเรื่องราวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของเจ้าหญิงทะเลที่ตกหลุมรักกับเจ้าชายมนุษย์เท่านั้น ภายในเรื่องมีความหมายและความสำคัญที่ลึกซึ้งและยาวนาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ชมในยุคปัจจุบัน เรื่องราวของแอเรียล เจ้าหญิงแห่งท้องทะเล เป็นการสื่อถึงความปรารถนาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงและก้าวข้ามขอบเขตที่เธอมี เธอมีความปรารถนาที่จะสำรวจโลกมนุษย์ และเพื่อที่จะทำให้เป็นจริง เธอต้องเสียสิ่งที่มีความหมายมากสำหรับเธอ นั่นคือเสียงของเธอ ต่อรองกับแม่มดทะเลเออร์ซูลา เป็นการเตือนว่าความปรารถนาที่แรงกล้าอาจมีค่าราคาที่สูง
ความหมายหลักของเรื่อง คือความเสี่ยงที่ต้องรับเมื่อต้องการให้ความฝันเป็นจริง แต่พร้อมทั้งนั้น ยังสื่อถึงความสำคัญของการรู้จักตัวเอง การรับรู้ถึงคุณค่าของสิ่งที่เรามี และการให้ความรักและความเข้าใจในครอบครัว ส่วนหนึ่งของความสำคัญของเงือกน้อยผจญภัย คือการยอมรับและการเข้าใจว่าเราทุกคนมีโลกที่แตกต่างกัน อย่างแอเรียลที่มีความปรารถนาที่จะอยู่ในโลกมนุษย์ หรือเจ้าชายอีริคที่หลงรักในเสียงของเธอแต่ไม่รู้ว่าเธอคือใคร การรับรู้และยอมรับความแตกต่างเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของการสร้างความเข้าใจและความรักที่แท้จริง
นอกจากนี้เงือกน้อยผจญภัย ยังเป็นเรื่องราวที่สื่อถึงการเป็นผู้หญิงในสังคม การที่แอเรียลต้องเสียเสียงเพื่อความฝันของเธอ เป็นการสื่อถึงประเด็นการสูญเสียสิทธิ์ในการมีเสียงในสังคม ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญหน้าในความเป็นจริง ท้ายที่สุดเงือกน้อยผจญภัย ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของการหาความรักและการผจญภัยในโลกที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเรื่องราวที่สื่อถึงความหมายและความสำคัญของการค้นหาตัวตน การรับรู้ถึงคุณค่าของสิ่งที่เรามี และการยอมรับความแตกต่างในโลกที่เราอาศัยอยู่ https://www.moviecodec.com/
อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Little_Mermaid_(1989_film)